การพัฒนาอย่างยั่งยืนคือหมุดหมายสำคัญที่โลกทั้งใบจะก้าวต่อไปข้างหน้าตามเส้นทางนี้ครับ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือการขจัดความเหลื่อมล้ำเท่านั้น แต่ครอบคลุมในทุกมิติและถึงเวลาที่เราทุกคนจะหันกลับมามอง ใส่ใจและเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นน้ำของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหลายล้วนมาจากแหล่งทุนทั้งจากสถาบันการเงินและองค์กรต่างๆ การลงทุนที่ส่งเสริมธุรกิจหรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำและไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปครับ
ผมมีโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ของ KBank Private Banking ซึ่งจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Lombard Odier ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการบริหารความมั่งคั่งระดับโลก ภายใต้หัวข้อ “The Race to Net Zero : A Sprint or a Marathon” ซึ่งถ่ายทอดในพื้นที่เอเชียแปซิฟิกรวมทั้งฮ่องกง สิงคโปร์และญี่ปุ่นด้วย โดยไฮไลต์ของงานเป็นปาฐกถาของ ‘บัน คี มุน’ อดีตเลขาธิการสหประชาชาติซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งกำลังคุกคามทุกชีวิตบนโลกใบนี้ อุณหภูมิของดาวดวงที่เราอาศัยอยู่นี้สูงที่สุดในรอบ 1 แสนปี ซึ่งทุกประเทศต้องร่วมมือกันยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสให้ได้
นักลงทุนเองรวมทั้งผู้ที่มีศักยภาพสูงก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาได้ด้วยการช่วยเหลือและขับเคลื่อนงบประมาณเพื่อเสริมกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่ใช้งบประมาณสูงถึงปีละ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับมือกับภาวะโลกร้อน นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงด้านกฏหมายเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทที่เป็นอยู่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ คาดว่าจะใช้เวลานับทศวรรษกว่าที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ได้
ขณะที่ ‘ฮูเบิร์ต เคลเลอร์’ Senior Managing Partner ของ Lombard Odier Group ก็เน้นย้ำบทบาทของสถาบันการเงินที่ต้องเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน และควรสนับสนุนการลงทุนในองค์กรที่มีเจตนารมณ์เรื่อง Net Zero หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ รวมทั้งองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วย ค่อนข้างชัดเจนว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะเป็นหัวใจสำคัญในการประเมินโอกาสและความเป็นไปได้ที่บริษัทนั้นๆ จะเติบโตรวมทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากนักลงทุนในอนาคตด้วย
ส่วนคุณ ‘จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์’ Private banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย ก็ประกาศพันธกิจ 3S นั่นคือ S-Curve หรือการสนับสนุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีศักยภาพ Sustainability ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และ Sharing สนับสนุนองค์กรสาธารณะกุศลที่จะช่วยแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนในสังคม โดย KBank Private Banking พยายามผลักดันการลงทุนในกองทุนที่สร้างความเปลี่ยนแปลง หรือผลกระทบเชิงบวกต่อโลก กองทุนด้านความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและกองทุนเพื่อความยั่งยืนของโลก เพื่อสนับสนุน กิจการต่างๆ ในด้านนี้และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า ซึ่งธุรกิจที่ช่วยแก้ปัญหาของโลกด้านสิ่งแวดล้อมและช่วยสร้างความยั่งยืนนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่ชัดเจนและมั่นคง แม้ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และนี่จะเป็นแนวทางการลงทุนที่จะทำต่อไปในอนาคตด้วย
เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมนะครับ ที่วันนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่งคั่งทั้งระดับประเทศและระดับโลกต่างเห็นตรงกันเรื่องการสนับสนุนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นแต่ยังสร้างแนวทางการทำธุรกิจที่เติบโตได้อย่างแข็งแรง มีกำไร และเป็นประโยชน์กับส่วนรวมอีกด้วย
มาร่วมลงทุนในความยั่งยืนกันนะครับ BizKlasser ^^
Comments