top of page

Jaspal เปลี่ยนไป การกลับมาของแบรนด์ขวัญใจเจนวาย



Jaspal เปลี่ยนไปครับ

.

โพสต์นี้ไม่ได้มี Sponsorship หรืออะไรที่ผมได้ประโยชน์จากแบรนด์แต่อย่างใด เพียงแต่ประทับใจและอยากเล่าครับ

.

คนเจนวายแบบผม (และ BizKlasser หลายท่าน) คงจะเติบโตมากับแบรนด์ Chaps ที่ตอนนี้เป็น CPS และ Jaspal ดีนะครับ สองแบรนด์นี้บุคลิกและกลุ่มเป้าหมายแยกจากกันอย่างชัดเจน เท่าที่ทำได้คือ สมัยม.ปลาย Jaspal คือแบรนด์ที่ออกแบบและตัดเย็บอย่างดี ราคาสูง ผมต้องเก็บเงินอยู่นานกว่าจะได้ของสักชิ้น ซึ่งก็เป็นสินค้าแฟชั่นที่ประสบความสำเร็จดีในช่วงเวลาหนึ่งเลย

.

จนช่วงหลังๆ ที่ห้างสรรพสินค้าออก House Brands ของตัวเองกันเยอะและทำการตลาดอย่างเข้มข้น ผมก็รู้สึกว่าเดินเข้าร้าน Jaspal น้อยลง ยิ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่เจออภิมหา Fast Fashion ทั้ง H&M Zara และ Uniqlo กระหน่ำเปิดเกมรุกธุรกิจเสื้อผ้าด้วย สถานการณ์ก็ดูจะไม่สวยสักเท่าไหร่ สำหรับแบรนด์ไทยที่ต้องต่อกรกับทุนใหญ่จากต่างชาติ

.

และก็ต้องยอมรับว่า เมื่อโตขึ้น มุมมองมีต่อโลก ต่อตัวเอง ต่อการแต่งตัวก็ต่างออกไป ตัวสินค้าและการบริการของ Jaspal ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการในใจของผมได้ดีเหมือนวันวาน

.

จนวันนี้ผมเดินผ่านหน้าร้านที่สาขา Central World และสะดุดตากับเสื้อยืดสีเขียวเรียบๆ หน้าร้าน มีปักตัว J เล็กๆ บนอก ทรงสวยและดูมินิมัลถูกจริตเหลือเกิน ก็เลยแวะเข้าไปดูเสียหน่อย

.

ผมประหลาดใจอยู่สองอย่างเพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน หนึ่งคือดีไซน์ของสินค้าคอลเลกชันนี้ และสอง บริการที่ดีเลิศจากพนักงาน

.

เสื้อยืดขนาดพอดีกับรูปร่าง แม้ผมจะมีพุงอยู่บ้างก็ยังใส่แล้วน่าพอใจ ลองไปลองมาก็เลยได้เสื้อยืดกลับบ้านมา 4 ตัว ที่ตัดสินใจง่ายก็เพราะร้านทำโปรโมชั่นลด 30% นี่ล่ะ

.

ผมสังเกตดูพนักงาน และคิดเองว่าต้องมีการอบรม หรือปรับกระบวนการให้บริการอะไรสักอย่างแน่ๆ ทำให้พนักงานดูใส่ใจมากขึ้น หาเสื้อตัวใหม่มาพับอย่างเรียบกริบห่อกระดาษสวยงาม

.

ทีเด็ดคือ ตอนจะรับถุงกระดาษมา น้องพนักงานบอกว่า "ขอไปส่งคุณลูกค้าที่หน้าร้านนะคะ" จากนั้นก็เดินถือถุงให้ผมจนถึงหน้าร้าน ยื่นให้กับมือ และสวัสดีอย่างสวยงามพร้อมประโยคคลาสสิก "โอกาสหน้ามาอุดหนุน Jaspal ใหม่นะคะ"

.

โอ้โห ประทับใจ

.

ไม่ใช่เนื่องบังเอิญแน่ๆ เพราะ สายตาของพนักงานดูตั้งใจและเหมือนกำลังทบทวน Protocal บางอย่างที่ได้รับการอบรมมา ทำตามลำดับจนครบ ผมว่าทำได้ดีเลยล่ะ

.

เรื่องประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) ที่เกิดจากบริการที่เป็นเลิศจากมนุษย์ด้วยกัน (Human Touch) ยังทรงพลังและมีเสน่ห์มาก เข้าใจว่า Jaspal คงพยายามปรับปรุงเรื่องบริการเพื่อทำให้คนรู้สึกกับแบรนด์มากขึ้น ซึ่ง Fast Fashion หรือ อีคอมเมิร์ซก็ยังให้ไม่ได้เลย

.

โดยส่วนตัวผมว่าคนไทยเรา ลึกๆ แล้วก็เชียร์และอยากสนับสนุนสินค้าของไทยที่ตั้งใจทำนะครับ ยิ่งคนเจนวายมีความทรงจำในวันวานที่ดีกับแบรนด์นี้ ก็น่าจะชวนกลับมากระชับความสัมพันธ์กันอีกครั้งได้ไม่ยาก

.

อย่างไรเสีย เรื่องการบริการและการสร้างความประทับใจ ณ จุดขายยังเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจค้าปลีกเสมอนะครับ ยังมีลูกค้าที่ยอมจ่ายราคาที่สูงกว่าเสมอ ถ้าเขาชอบมันเสียอย่าง ชอบวินาทีที่พนักงานทำให้ประทับใจเสียอย่าง

.

ธุรกิจไหนเกี่ยวข้องกับคน คนก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ

.

173 views0 comments

تعليقات


bottom of page