
ผมไปฟังเสวนาของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) มาครับ เป็นงานประจำปีชื่อ KKP Year Ahead 2025: Opportunites Unbound
.
มีปาฐกถาของ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธาน สภาพัฒน์ฯ ที่น่าสนใจ ก็เลยอยากนำมาฝาก BizKlasser ที่กำลังลุ้นทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกตอนนี้ครับ
.
Thailand: How to Survive in a More Geopolitically Fragmented World Economy โดย ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ
.
โลกในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและภายในที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆ รวมถึงไทยต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อความอยู่รอดในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีการกระจัดกระจายมากขึ้น ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประเด็นนี้ในงานสัมมนา โดยเน้นถึงปัจจัยสำคัญที่ประเทศไทยควรคำนึงถึง
.
Fed ยังคงดอกเบี้ยในระดับสูง เนื่องจากพื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ทำให้การลดดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นไปได้ยาก อีกทั้งดอกเบี้ยระยะยาวก็มีแนวโน้มคงตัวหรือสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความมั่นคงในเศรษฐกิจและนโยบายของสหรัฐฯ ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ หากโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง มีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐฯ จะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเข้มข้น เช่น การเพิ่มภาษีศุลกากรหรือปรับโครงสร้างการค้าเพื่อผลักดันผลประโยชน์ของตนเองอย่างชัดเจน
.
โลกในปัจจุบันถูกครอบงำโดยสองมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งครองสัดส่วนเศรษฐกิจโลกถึงสองในสาม จีนยังคงเป็น 'Manufacturing Superpower' หรือมหาอำนาจด้านการผลิตสินค้า ขณะที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงจากการเป็นผู้จัดระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มาเป็นการมุ่งเน้นผลประโยชน์ของตนเองอย่างชัดเจน เห็นได้จากการถอนตัวจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น WHO และ Paris Agreement การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างสูญญากาศในเวทีโลก ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
.
ในส่วนของยุโรป เศรษฐกิจยังคงเติบโตช้าด้วยอัตราการขยายตัวต่ำกว่า 1% โดยเฉพาะเยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศส ขณะที่จีนเองก็เผชิญกับความท้าทายเช่นกัน จากปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่สูงถึง 40% ของ GDP ซึ่งเกิดจากรายได้จากการเช่าที่ดินที่ลดลง และผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลงเรื่อยๆ ถึงกระนั้น จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น การผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่ครองตลาดโลกถึง 85% แม้จะเผชิญกับปัญหาอุปทานล้นเกินก็ตาม
.
สำหรับประเทศไทย โอกาสในเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและอาหาร ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน ซึ่งมีสาร Quercetin ที่ดีต่อสุขภาพและเป็นที่ต้องการของจีน นอกจากนี้ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ไทยสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ
.
อีกทั้งไทยยังสามารถพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ด้านอาหารสำหรับส่งออกไปยังจีนและประเทศอื่นๆ เนื่องจากจีนยังคงต้องการสินค้าเกษตรและอาหารในปริมาณมาก โดยเฉพาะในสภาวะที่ประชากรของจีนมีอายุมากขึ้นและเผชิญกับความขาดแคลนอาหาร
.
ในภาพรวม ประเทศไทยต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก โดยเน้นพัฒนาจุดแข็งที่มีอยู่ เช่น การเกษตร อาหาร และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงการสร้างบทบาทใหม่ในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์ด้านอาหารในภูมิภาค โอกาสเหล่านี้จะเป็นทางรอดสำคัญสำหรับไทยในยุคเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการแข่งขันที่รุนแรง.
.
Comments