ใครที่เป็นลูกค้าเดอะมอลล์กรุ๊ปคงจะใจหายกันบ้าง เมื่อบัตร 'SCB M' ที่ใช้กันมานานจะหายไปภายในสิ้นไตรมาส 1/2567 นี้
.
ส่วนตัวผมใช้เป็นบัตรหลักทั้งการซื้อสินค้าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ชอบตรงที่แลกแต้มเป็นส่วนลดสินค้าเพิ่มได้นี่ล่ะครับ เดินทางไปไหนมาไหนมาด้วยกันหลายปี
.
ล่าสุดเดอะมอลล์ กรุ๊ปก็แถลงร่วมกับธนาคารกรุงเทพเปิดตัว Bangkok Bank M เพื่อทำการตลาดบัตรโคแบรนด์ร่วมกัน สิทธิประโยชน์ก็คล้ายบัตร SCB M เดิมเลย
.
แต่จะไม่มีการโอนย้ายลูกค้าบัตรเดิมของ SCB M ไป Bangkok Bank M นะครับ **ทุกคนต้องสมัครบัตรใหม่กับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะสมัครได้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2566 เป็นต้นไป
.
เปลี่ยนมือทีมดูแลลูกค้ารายย่อยจาก SCB มาที่ BBL
.
คิดเองง่ายๆ คงไม่ใช่ทุกคนที่ได้ไปต่อหรืออยากไปต่อ เพราะต้องผ่ายกระบวนการตรวจสอบข้อมูลเครดิต กระบวนการด้านเอกสารและอื่นๆ 'โดยทีมธนาคารกรุงเทพ' ตั้งแต่นับ 1 ซึ่งไม่แน่ใจว่าข้อมูลเครดิตและระดับรายได้ของบางคนอาจจะแตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนเมื่อสมัครบัตรนี้ตอนก่อนยุคโควิด-19 ก็เป็นได้
.
เป็นเรื่องธรรมดาที่ยังไงธนาคารก็ต้องคัดกรองลูกค้าเพื่อควบคุมคุณภาพสินเชื่อ
.
นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์เรื่องระดับของบัตรตามระดับรายได้ ซึ่งจะมีผลกับส่วนลดและสิทธิประโยชน์มากมาย ถ้าย้ายไปสมัครค่ายใหม่แต่ได่ระดับบัตรที่ต่ำลง บางคนก็อาจไม่ใช้เพราะไม่คุ้มค่าก็เป็นได้
.
สิ่งที่จุกจิกกวนใจคือ ถ้าใครใช้บัตร SCB M (ที่ต้องถูกยกเลิก) เป็นบัตรหลัก ผูกค่าใช้จ่าย บิลค่าน้ำค่าไฟ และอื่นๆเอาไว้ ต้องไปทำเรื่องยกเลิกและย้ายไปที่บัตรหลักใบใหม่เองด้วย มีต้นทุนด้านเวลาและอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องทันที
.
ทำให้ผมเองคิดว่า เรายังควรใช้บัตรโคแบรนด์เป็นบัตรหลักอยู่มั้ยนะ? เพราะวันหนึ่งก็ต้องยกเลิกอยู่ดี ซึ่งก็เป็นปกติของผลิตภัณฑ์การเงินประเภทนี้อยู่แล้ว
.
คิดเองเล่นๆ ว่า เลขบัตรเครดิตนี่ จะทำเหมือนเบอร์มือถือ 'ย้ายค่ายเบอร์เดิม' ได้หรือเปล่า? จะได้ใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่ก็คงเป็นไปได้ยากเนื่องจากข้อจำกัด กฏระเบียบ และการกำกับดูแล
.
คงต้องวัดฝีมือทีมของธนาคารกรุงเทพกันต่อว่าจะทำบัตรตระกูล 'M' นี้ได้น่าสนใจหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่า SCB M คือบัตรโคแบรนด์ที่ทำการตลาดโดดเด่นมากที่สุดใบหนึ่งช่วงที่ผ่านมา
.
ลาก่อน SCB M